วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

อาหารภาคใต้


อาหารภาคใต้

บูดูทรงเครื่อง 


ส่วนผสม
•              น้ำบูดู 2 ถ้วยตวง

•              เนื้อกุ้งต้มสุกหั่นเป็นชิ้นๆ 200 กรัม
•              พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
•              หอมแดงซอย ¼ ถ้วยตวง
•              ข่าหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
•              ตะไคร้ซอย ¼ ถ้วยตวง
•              ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
•              ดอกดาหลาหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
•              น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา
•              น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
•              น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง
วิธีทำ
1.            ผสมน้ำบูดูกับน้ำเปล่า ตั้งไฟ พอเดือดยกลง กรองให้สะอาด
2.            ใส่เครื่องปรุงที่ซอยไว้ทั้งหมด ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำตาลมะพร้าว ใส่เนื้อกุ้งต้มที่หั่นไว้ คนพอทั่ว ชิมรส เค็ม เปรี้ยว ตามต้องการ
3.            ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น แตงกวา ขมิ้นขาว ถั่วพู มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว
Tips
•              ควรเลือกน้ำบูดูเกรด A จะได้มีกลิ่นและรสที่ดี
•              มีรสเค็ม เปรี้ยว
•              ดอกดาหลามีกลิ่นหอมคล้ายข่า ช่วยในการดับกลิ่นคาวได้ดี
                                                                                                                                                                                                                                 

น้ำพริกระกำ


ส่วนผสม
•              พริกขี้หนูสด 30 เม็ด
•              ระกำฝานเอาแต่เนื้อ ¼ ถ้วยตวง
•             
กุ้งแห้งบดละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
•             
กระเทียมหั่น 2 กลีบ
•             
น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนชา
•             
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
•             
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
•             
ใบตอง 1 ใบ

วิธีทำ
1.            ใช้ใบตองห่อกะปิย่างไฟให้มีกลิ่นหอม
2.           
โขลกกะปิ กระเทียม กุ้งแห้ง พริกขี้หนู น้ำตาลมะพร้าว เข้าด้วยกัน
3.           
ใส่ระกำ โขลกให้เข้ากัน เติมน้ำปลา ชิมรส
4.           
ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักเหนาะ เช่น สะตอ ลูกเนียง กระถิน

Tips
•              สามารถเติมน้ำอุ่นผสมลงไปเล็กน้อยเพื่อให้มีน้ำขลุกขลิก
•             
พริกขี้หนูสวนจะมีรสเผ็ดมาก สามารถลดหรือเพิ่มปริมาณของพริกได้ตามชอบ
                                                                                                                                                                                                                                     



ผัดสะตอกุ้งเปรี้ยวหวาน


ส่วนผสม
•              เม็ดสะตอ 300 กรัม
•             
พริกหวานหั่น 400 กรัม|
•             
กุ้งชีแฮ้ 200 กรัม
•             
หอมใหญ่หั่น 200 กรัม
•             
พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 3 เม็ด
•             
กระเทียมบุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ
•             
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
•             
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
•             
กะปิ 2 ช้อนชา
•             
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
•             
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
•             
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.            ล้างกุ้ง ปอกเปลือก เด็ดหัวไว้ส่วนหาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก
2.           
ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เอากระเทียมลงผัดให้มีกลิ่นหอม ใส่น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย กะปิ น้ำมะนาว ผัดพอให้เข้ากัน
3.           
ใส่สะตอ พริกชี้ฟ้า พริกหวาน ผัดให้เข้ากันแล้วใส่กุ้ง พอกุ้งสุกตักใส่ภาชนะ

Tips
•              กะปิควรละลายน้ำเล็กน้อย แล้วผัดให้มีกลิ่นหอม จึงใส่ส่วนผสมอื่นลงไป
•             
รสชาติของผัดสะตอกุ้งเปรี้ยวหวานจะมีรสเปรี้ยวหวานนำ

                                                                                                                                                                                                                                         


กุ้งทอดใบเล็บครุฑ



ส่วนผสม
•              กุ้งฝอย 1,000 กรัม
•             
แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
•              แป้งสาลี 300 กรัม
•             
น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
•             
ขมิ้นหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
•             
กะทิ ½ ถ้วยตวง
•             
เกลือป่น 1 ช้อนชา
•             
ใบเล็บครุฑ 300-400 กรัม
•             
ไข่เป็ด 1 ฟอง
•             
น้ำเปล่า 1 ½ ถ้วยตวง
•             
น้ำมันพืช 4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1.            ล้างกุ้งฝอยให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.            โขลกขมิ้น เกลือป่น ให้เข้ากันและละเอียดดี
|3.           ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดในน้ำปูนใส น้ำเปล่า กะทิ นำส่วนผสมขมิ้นผสมให้เข้ากัน ใส่ใบเล็บครุฑ ไข่เป็ด กุ้งฝอย เคล้าให้เข้ากัน
4.            ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใช้ทัพพีตักแป้งซึ่งมีส่วนผสมใบเล็บครุฑและกุ้งวางลงในน้ำมันจนแป้งสุกจึงแกะออกทอดต่อจนแป้งสุกเหลืองเท่าๆ กัน รับประทานกับน้ำจิ้ม

ส่วนผสมน้ำจิ้ม
•              กระเทียมหั่น 4 ช้อนโต๊ะ
•             
พริกแดงหั่น 4 ช้อนโต๊ะ
•             
น้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง
•             
น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
•             
เกลือป่น 1 ช้อนชา
•             
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา (ละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ)

วิธีทำ
1.            โขลกพริกแดง กระเทียม ให้ละเอียด
2.            ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือป่น ตั้งไฟให้เดือด ใส่พริกที่โขลกไว้ เทแป้งข้าวโพดที่ละลายลงไป คนให้เข้ากัน พอแป้งสุกยกลง
                                                                                                                                                                                                                                      

ต้มกะทิเนื้อหนาง



ส่วนผสม
•              เนื้อหนาง 500 กรัม
•              มะพร้าวขูด 500 กรัม
•              พริกขี้หนู 40 เม็ด
•              หอมแดง 1 หัว
•              กระเทียม 1 หัว
•              ข่าหั่นท่อน 1 ชิ้น
•              ตะไคร้หั่นท่อน 2 ต้น
•              ขมิ้นหั่นท่อน 1 ชิ้น
•              น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา
•              น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.            ล้างเนื้อหนาง หั่นเป็นชิ้นพอคำ พักไว้
2.           
คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง หางกะทิ 3 ถ้วยตวง
3.            บุบขมิ้น ตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม และพริกขี้หนู
4.            ใส่หางกะทิลงในหม้อ ตั้งไฟ ใส่ขมิ้น ตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม ที่บุบไว้
5.            พอเดือดปรุงรสด้วย น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา คนพอทั่ว ใส่เนื้อหนาง พริกขี้หนู คนอีกครั้ง ราดด้วยหัวกะทิ พอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ
6.           
ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟขณะร้อนจัด

Tips
•             
เนื้อหนางคือ เนื้อหมูส่วนเนื้อแดงและส่วนติดมันเล็กน้อย หมักกับ น้ำตาล น้ำซาวข้าว ประมาณ 3 วัน จะได้เนื้อที่มีรสเปรี้ยว มีกลิ่นหอม 
                                                                                                                                                                                                                                    



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น